ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เราได้เห็นการปรับปรุงระบบหลายอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และหนึ่งในนั้นที่ได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างมากก็คืออุตสาหกรรมการผลิตนั่นเอง
สาเหตุหลักเป็นเพราะ Automation System ระบบอัตโนมัติที่ทำให้ผู้ผลิตสามารถควบคุมการดำเนินงานได้มากขึ้น ทั้งการเพิ่มผลผลิตและการลดต้นทุน
Automation System ในการผลิตคืออะไร ?
การผลิตอัตโนมัติหมายถึงการใช้เทคโนโลยี เช่น อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ เพื่อทำให้กระบวนการผลิตเป็นไปโดยอัตโนมัติ อาจฟังดูเหมือนเป็นแนวคิดใหม่ แต่ก็มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า มีผู้คนพยายามสร้างระบบอัตโนมัติให้สามารถนำมาใช้ได้จริงตลอดมา
ประเภทของ Automation System ในการผลิต
กระบวนการผลิตนั้นมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงทำให้ Automation System มีหลายประเภทเพื่อรองรับกระบวนการที่มีความแตกต่างกัน
1. Fixed Automation
Fixed Automation หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Hard Automation คือการตั้งค่าระบบอัตโนมัติในการผลิต สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียวในเครื่องจักรแต่ละเครื่อง เหมาะสำหรับการผลิตในปริมาณมาก
โดย Hard Automation ได้นำ Sequence และขั้นตอนการดำเนินในการผลิตจำนวนมากมารวมกัน เมื่อติดตั้งเครื่องจักรบนพื้นที่แล้ว จะทำให้การเปลี่ยนรูปแบบการผลิตเป็นเรื่องยาก
ตัวอย่างของ Fixed Automation ได้แก่
– กระบวนการผลิตสารเคมี
– Assembly line
– ระบบ Material Conveyor
2. Programmable Automation
Programmable Automation คือระบบการผลิตที่ใช้โปรแกรมควบคุม ทำหน้าที่เป็นชุดคำสั่งที่เป็นระบบอ่าน ตีความ และดำเนินการ
Key Feature ของ Programmable Automation คือความสามารถในการเปลี่ยนแปลงระบบ รองรับการกำหนดค่าผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันหรือใช้ลำดับที่แตกต่างกันได้ อีกทั้งคุณยังสามารถป้อนโปรแกรมใหม่เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ เหมาะสำหรับการผลิตแบบ Batch Production
ตัวอย่างของ Programmable Automation ได้แก่
– Industrial Robot
– Numerically controlled (NC) machine tools
– Programmable logic controllers
3. Flexible Automation
Flexible Automation อาจมีบางมุมที่คล้ายกับ Programmable Automation ด้วยการออกแบบระบบอัตโนมัติที่ช่วยตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงการผลิตได้อย่างรวดเร็ว เช่น ปริมาณผลิตภัณฑ์ ซึ่งในการทำงาน ผู้ปฏิบัติงานจะสามารถตั้งโปรแกรมระบบคอมพิวเตอร์เพื่อควบคุมเครื่องจักร หรือจะใช้ Human Machine Interfaces (HMI) ก็ได้
ในการตั้งค่านี้ ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนกลางจะควบคุมระบบการผลิตและการจัดการวัสดุ ดังนั้น Flexible Automation จึงเหมาะกับการผลิตเป็นชุดสำหรับ Batch Production นอกจากนี้ ยังเป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณต้องการผลิตผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ พร้อมกัน
ตัวอย่างของระบบ Flexible Automation ได้แก่
– Assembly lines
– Robotics
– Material handling system
ประโยชน์ของการใช้ Automation System ในการผลิต
Automation System หรือระบบอัตโนมัติได้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นมากกว่าความสวยหรูในการผลิต ผลประโยชน์ที่ได้รับจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจของคุณได้อย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่
- ลดต้นทุนในการดำเนินงาน
แม้ว่าระบบอัตโนมัติอาจต้องใช้เงินลงทุนเริ่มแรกเป็นจำนวนมาก แต่ก็ให้ความคุ้มค่าในระยะยาว ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องจักรหนึ่งเครื่องสามารถทำงานแทนพนักงานได้จำนวนกี่คน
- เพิ่มความปลอดภัยในงาน
ที่ผ่านมา สภาพแวดล้อมในการทำงานอาจมีทางเลือกไม่มากมายนัก กระบวนการผลิตบางอย่างอาจทำให้พนักงานตกอยู่ในสภาวะที่เป็นอัตราย แต่ด้วย Automation System คุณสามารถนำพนักงานออกจากกระบวนการหรือสารอันตรายได้ และใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาแทนที่
- ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
นอกจากการทำงานแบบอัตโนมัติทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เครื่องจักรยังสามารถรักษาความเร็วในการผลิตเท่าเดิมได้ตลอด ซึ่งหมายความว่ากระบวนการผลิตของคุณสามารถดำเนินต่อไปได้ยาวนานขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้คุณสามารถผลิตได้มากขึ้นหรือเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่โดยไม่กระทบต่อการผลิตเดิม
- คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว เครื่องจักรสามารถทำงานด้านการผลิตได้อย่างแม่นยำมากกว่าคน นอกจากนี้ ยังรักษาคุณภาพการผลิตที่เท่าเดิมตลอด ด้วยความสอดคล้องและความสม่ำเสมอ ทำให้อัตราการเกิดข้อบกพร่องต่ำกว่าเดิม
อนาคตของ Automation System ในการผลิตอัตโนมัติจะเป็นอย่างไร
แม้ว่าระบบอัตโนมัติด้านการผลิตจะถูกพัฒนาไปแบบก้าวกระโดด แต่ก็ยังมีเทคโนโลยีอีกมากที่รออยู่ข้างหน้า เนื่องจากเมื่อระบบอัตโนมัติถูกผสานรวมกับ AI, Machine Learning และหุ่นยนต์ จะทำให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก : https://roboticsandautomationnews.com/2021/09/10/automation-in-manufacturing-what-you-need-to-know/46243/