Smart Factory
ในยุคนี้ ทุกคนคงได้ยินคำว่า Smart Factory กันมากขึ้น ด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี หรือสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นสำคัญในการเร่งให้ผู้ผลิตเปลี่ยนจากโรงงานแบบเดิม ให้เป็น Smart Factory เนื่องจากต้องการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การผลิต ลดต้นทุน ลดจำนวนคน
ในบทความนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับ Smart Factory ให้มากขึ้น ตั้งแต่ความหมาย ความแตกต่างจากโรงงานเดิมสู่โรงงานอัจฉริยะ และประโยชน์ของการเปลี่ยนมาสู่ระบบนี้ จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังสนใจในเทคโนโลยี ระบบอัตโนมัติ และกำลังจะเปลี่ยนระบบมาใช้ Smart Factory แทนระบบเดิม
Smart Factory คืออะไร
Smart Factory เป็นการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมที่นำเอาเทคโนโลยีเครื่องจักรต่างๆ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ IoT (Internet of Things) เข้ามาเพื่อบริหารจัดการภายในโรงงาน เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างการทำงานที่เป็นระบบแบบอัตโนมัติ (Automation) ยกระดับคุณภาพของชิ้นงาน แต่ใช้กำลังคนที่น้อยลง
โดยผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการภายในโรงงานได้อย่างเป็นระบบ เข้าถึงได้แม้อยู่ในระยะไกล ไม่อยู่ในโรงงานก็ยังสามารถควบคุมการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีปัญญาประดิษฐ์คอยประมวลผลการทำงานร่วมกับเครื่องจักร สามารถบันทึกข้อมูลสถิติต่างๆ ได้อย่างชัดเจน อย่างเช่น อุณหภูมิของเครื่องจักร อัตราและจำนวนการผลิต ชั่วโมงการทำงาน ฯลฯ ทำให้เมื่อเกิดความผิดพลาดก็สามารถที่ตรวจสอบจากชุดข้อมูลเหล่านี้ได้
ด้วยระบบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นเหตุที่ทำให้เรียกโรงงานเหล่านี้ว่า Smart Factory นั่นเอง
Factory VS. Smart Factory
ข้อแตกต่างระหว่างโรงงานปัจจุบันและโรงงานอัจฉริยะ
- ลดจำนวนแรงงาน แต่กำลังในการผลิตไม่ลดลง
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า Smart Factory นั้นได้นำเทคโนโลยีเครื่องจักร และปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยในการทำงาน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานมนุษย์เท่าเดิม แต่ก็สามารถผลิตได้ในปริมาณเท่าเดิมหรือมากกว่า
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังไม่ต้องเป็นกังวลถึงความผิดพลาดของชิ้นงานจาก Human Error อีกด้วย ช่วยรักษามาตรฐานของโรงงานได้เป็นอย่างดี
- สร้างกำไรได้ในระยะยาว
แม้ว่า Smart Factory จะใช้เงินทุนในการสร้างระบบที่ค่อนข้างสูง แต่หากมองในระยะยาว จะเห็นได้ว่าการลงทุนนี้คุ้มค่าแน่นอน
ปกติแล้วต้นทุนของโรงงานส่วนมากจะถูกนำไปใช้กับการจ้างแรงงาน แต่การนำเครื่องจักรเข้ามาควบคุมการผลิตภายในโรงงาน ทำให้จำนวนของพนักงานที่ต้องจ้างรายเดือนลดลง
ประกอบกับเครื่องจักรอุตสาหกรรมนั้นมีความทนทานสูง และมีอัตราซ่อมบำรุงที่ต่ำ เครื่องหนึ่งสามารถใช้ได้ยาวนานหลายปี เมื่อเทียบกับการจ่ายค่าพนักงานในทุกๆ เดือนแล้ว จึงสามารถสร้างกำไรได้ระยะยาวในอนาคตอย่างแน่นอน
- เวลาในการผลิตที่ลดลง
อีกหนึ่งสิ่งที่เครื่องจักรสามารถทำได้ดีกว่ามนุษย์นั่นก็คือความเร็วในการทำงาน เพราะมีข้อแตกต่างตรงที่เครื่องจักรนั้นสามารถทำงานได้เรื่อยๆ โดยไม่มีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย
แม้ว่าจะต้องมีการพักเครื่องบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ยังนับว่ามีชั่วโมงในการทำงานที่นานกว่ามนุษย์ค่อนข้างมาก ช่วยยกระดับโรงงานขึ้นไปอีกขั้น ทำให้ผู้ประกอบการมีเวลาเหลือเฟือเพื่อนำไปพัฒนาส่วนอื่นๆ อีกมาก
- ข้อมูลเชิงลึก เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้น
อีกหนึ่งจุดแข็งของ Smart Factory นั่นก็คือความสามารถในการรวบรวมข้อมูล (Data) โดยข้อมูลที่รวบรวมมาได้นั้น สามารถนำมาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมองเห็นข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานได้
ข้อมูลที่ได้มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากต่อการคำนวณแผนการผลิต โดยสามารถนำมาคิดคำนวณเพื่อมองหาแนวทางในการลดต้นทุน หรือปรับเปลี่ยนเพื่อร่นระยะเวลาการทำงานลงได้
- ลดโอกาสในความผิดพลาด
หลายๆ คนน่าจะเคยได้เห็นข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในโรงงานอยู่บ่อยครั้ง เช่น การบาดเจ็บเพราะเครื่องจักรต่างๆ ซึ่ง Smart Factory สามารถกลบข้อผิดพลาดในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี
Smart Factory นั้นเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และวางแผนการทำงานภายในโรงงานให้ออกมาเป็นรูปแบบอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดได้อย่างแม่นยำ
ระบบ Automation ของเครื่องจักรนั้น หากมีการตั้งค่าที่ดีพอ ก็แทบจะไม่ต้องใช้แรงงานของมนุษย์เข้าไปร่วมทำงาน ทำให้โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้นลดน้อยลงเป็นอย่างมาก
องค์ประกอบของ Smart Factory
หากพูดถึงโรงงานในรูปแบบเดิมๆ หลายคนอาจนึกถึงภาพของเจ้าของโรงงานคนหนึ่ง เป็นคนวางแผนสั่งการโรงงานทั้งหมด แน่นอนว่ามันอาจจะผ่านชั้นของหัวหน้างาน แต่ Smart Factory จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำงานนี้โดยสิ้นเชิง
องค์ประกอบของ Smart Factory จะมีด้วยกันหลักๆ 4 อย่าง คือ
- Prediction การคาดการณ์
- Planning & Scheduling การวางแผนและการกำหนดการทำงาน
- Analytic การวิเคราะห์คิดคำนวณ
- Execution การปฏิบัติงาน
สิ่งที่ทำให้แตกต่างก็คือ องค์ประกอบทั้งหมดจะถูกใช้ร่วมกับเทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆ ซึ่งคือ IoT หรือ Internet of Thing
สาเหตุที่ Internet of Thing เปรียบเสมือนพื้นฐานที่สุด เพราะมันเป็นตัวกลางสำคัญในการเชื่อมทุกสิ่งทุกอย่างในโรงงานเข้าสู่ใจกลาง ทำให้ไม่ว่าจะผู้บริหาร ผู้จัดการ ไปจนถึงพนักงาน สามารถรับรู้สิ่งที่เครื่องจักรต่างๆ ทำได้ทันที รวมถึงเห็น Flow หรือการทำงานทั้งหมด ว่ามีความลื่นไหลขนาดไหน ติดขัดตรงไหนหรือเปล่า
แน่นอนว่าอีกระบบที่ขาดไม่ได้เลยคือการใช้หุ่นยนต์ร่วมกับระบบอัตโนมัติ หรือระบบ Automation ที่ทำงานทั้งหมดได้ด้วยการสั่งการเพียงครั้งเดียว ทำให้แม้ว่าผู้ควบคุมจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ก็ยังสามารถทำให้เหล่าหุ่นยนต์เดินเครื่องได้
ไม่ใช่แค่เครื่องจักร แต่ยังรวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ภายในโรงงาน ตั้งแต่ระบบควบคุมความปลอดภัยจนถึงระบบไฟฟ้า เราสามารถเชื่อมต่อมันได้ผ่านเทคโนโลยี IoT
เตรียมพร้อมสู่โรงงานอัจฉริยะ Smart Factory
การเริ่มต้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันก็มีความซับซ้อนหลากหลายในตัวเองเช่นกัน โดยเราได้รวบรวมข้อมูลและสรุปเทคนิคการเริ่มต้นการทำงานด้วย Smart Factory ไว้ ดังต่อไปนี้
- ตั้งคำถามกับโรงงานของตัวเอง
ทำไมเราถึงเลือกที่จะอัปเกรดโรงงานของตัวเองเข้าสู่ระบบ Smart Factory ? ในตลาดที่เกี่ยวข้องกับตัวเองมีความจำเป็นมากขนาดไหน เราต้องการปรับเปลี่ยนโรงงานไปในรูปแบบใด ส่วนเดียวหรือทั้งหมด
- สำรวจสิ่งที่เกี่ยวข้องในโรงงาน
ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน บุคลากร พื้นที่ แผนการผลิตทั้งระยะสั้นและระยะยาวรวมถึงเครื่องจักรที่สามารถใช้งานได้ในปัจจุบันและต้องสั่งซื้อเพิ่ม การมองทั้งหมดออกในภาพรวม เพื่อที่จะได้วางแผนการลงทุน การทำงาน ผลลัพธ์ที่ต้องการ รวมถึงแผนการจัดการอื่นๆ ได้ในระยะยาว
- วางแผนการลงทุน Smart Factory
สืบค้นข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Smart Factory และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง สอบถามราคาในการติดตั้ง เทรนนิ่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการปรับเปลี่ยนงาน เพื่อการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด ตามความเหมาะ
สมในโรงงานของคุณ รวมไปถึงเลือกบริษัทที่เชื่อถือได้ มีเครดิตในการทำงานเกี่ยวกับ Smart Factory
- ฝึกอบรมและทำความเข้าใจกับพนักงาน
เรื่องของบุคลากรเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเราจะผลักดันโรงงานให้เป็น Smart Factory โดยเฉพาะการทำงานในโรงงานแบบเดิมๆ ที่หลายคนคุ้นชิน
อาจได้รับเหตุผลว่า “จะมีการเปลี่ยนแปลงไปทำไม ?” ทางผู้บริหารควรมีการทำความเข้าใจพนักงาน และฝึกอบรบความรู้ เพื่อทำให้พนักงานสามารถทำงานได้ทันทีเมื่อมีการติดตั้งระบบที่เกี่ยวกับ Smart Factory เรียบร้อยแล้ว
- ทดสอบระบบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องก่อนติดตั้งจริง
ในการทำงานของ Smart Factory ควรมีการทดสอบระบบทั้งหมดในพื้นที่เฉพาะ โดยอ้างอิงจากโรงงานจริงเสียก่อน เพื่อทำให้เราทราบได้ว่าการทำงานทั้งหมดเป็นอย่างไร มีจุดไหนที่ต้องแก้ไขบ้าง เพื่อให้การทำงานหน้างานจริงสามารถทำงานได้ไม่มีติดขัด
- ติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
โดยอ้างอิงจากการวางแผนด้านบน โดยมีการคำนวณเวลาติดตั้ง การทำงานขั้นตอนต่างๆ รวมไปถึงการทดสอบระบบเบื้องต้นในการทำงานก่อนที่จะมีการดำเนินงานทดสอบขั้นสุดท้ายทั้งหมดหลังจากการเตรียมงานเสร็จ
- ตรวจสอบระบบหลังการติดตั้ง
ตรวจสอบการติดตั้งและการทำงานอีกครั้งทั้งโรงงาน เพื่อเป็นหลักฐานว่าโรงงานทั้งหมดสามารถทำงานได้อย่างเป็นประสิทธิภาพ
- ดำเนินการทำงานและติดตามผล
ในส่วนของการดำเนินการทำงานนั้นเป็นส่วนของพนักงาน แต่ผู้บริหารเองก็ต้องมีการติดต่อสอบถามและติดตามผลการทำงานของระบบภายใน Smart Factory ของตัวเอง
การเริ่มต้นทำงานเกี่ยวกับ Smart Factory และระบบโรงงานที่เกี่ยวข้องยังมีประเด็นหลายๆ อย่างที่ยิบย่อยลงไปอีกมาก ทางที่ดีผู้ที่สนใจควรศึกษาหาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อเพิ่มความเข้าใจของตัวเอง ก่อนดำเนินการติดตั้งระบบหรืออุปกรณ์
เตรียมพร้อมสู่โรงงานอัจฉริยะ Smart Factory
- สามารถตรวจสอบการทำงานได้ง่าย
สามารถดูการทำงานแบบ Real-time และการตรวจสอบการทำงานย้อนหลังจากเทคโนโลยี IoT ทำให้เห็นจุดดี จุดด้อยในการทำงาน รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ทันท่วงที
- นำข้อมูลมาวิเคราะห์ต่อยอดได้
ด้วยการทำงานที่อิง Data เป็นหลัก ทำให้ทางโรงงานสามารถคำนวณปริมาณการผลิต การสั่งซื้อ รวมถึงการส่งสินค้าไปหาลูกค้า นอกจากจะลดต้นทุนแล้วยังส่งผลถึงการจำกัดปริมาณของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Defect) ที่ส่งผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับโรงงานอีกด้วย
- เพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการทำงาน
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้นด้วยหุ่นยนต์ที่เข้ามาดูแลการผลิต โดยเฉพาะงานที่มีความซ้ำซ้อน หรืองานละเอียดที่ต้องใช้ความเร็วสูง ซึ่งหุ่นยนต์จะมีความสามารถในการทำงานประเภทนี้ได้ดีกว่ามนุษย์ทั่วไป
- สามารถควบคุมการทำงานระยะไกลได้
ด้วยการเชื่อมต่อระบบทุกอย่างเข้าสู่อินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้ควบคุมเครื่องจักรในโรงงาน สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้และตรวจสอบการทำงานจากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต
- เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
นอกจากระบบการผลิตแล้ว ระบบ Security และระบบควบคุมคุณภาพเองก็มีการเก็บข้อมูลเช่นกัน ทำให้สามารถประเมินความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงระบุข้อควรระวังในการทำงานได้มากกว่าการทำงานตามปกติ
แน่นอนว่ากระบวนการที่จะก้าวสู่ยุค Smart Factory ของธุรกิจนั้นอาจต้องใช้เวลานานในการศึกษาระบบ การหาโซลูชั่นที่เหมาะสมกับธุรกิจที่สุด และขั้นตอนในการตัดสินใจในการลงทุน ซึ่งต้องประเมินถึงความคุ้มค่าในการลงทุนอีกด้วย
หากคุณยังไม่มั่นใจ ต้องการคำแนะนำ หรือคำปรึกษาเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ Riverplus ยินดีให้ความช่วยเหลือ แนะนำ ออกแบบโซลูชั่นให้ตรงกับการใช้งานของคุณมากที่สุด เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ธุรกิจของคุณ สร้างผลกำไร และการเติบโตของโรงงานในอนาคต
อ้างอิงข้อมูลจาก :
- https://www.tot.co.th/sme-tips/SME-tips/2020/07/23/what-is-smart-factory#:~:text=Smart%20Factory%20%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87,%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%87
- https://www.sumipol.com/knowledge/smart-factory/#:~:text=%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%20Smart%20Factory,%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%86%20%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5
- https://1stcraft.com/what-is-smart-factory/