เมื่อเกิดการระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 ทำให้ผู้คนต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตทั้งในแง่ของการทำงาน และการดำเนินธุรกิจไปเพื่อความอยู่รอด ซึ่งการต่อสู้ในครั้งนี้ดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะหากมองย้อนกลับไปในปี 2020 เราทุกคนคงเห็นแล้วว่าผลกระทบของ COVID-19 มีผลกระทบอย่างชัดเจน และต้องมีการปรับตัว เพื่อทำให้ผลกระทบของการแพร่ระบาดนี้น้อยที่สุด
ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจต่างจำเป็นต้องปรับตัวและพยายามดำเนินธุรกิจต่อไปให้ได้ โดยเป็นไปตามมาตรการเพื่อความปลอดภัยต่างๆ เช่น การ lockdown และ social distancing
ซึ่งความจำเป็นในการปรับตัวของธุรกิจในครั้งนี้ ทำให้เกิดขั้นตอนการดำเนินการบางอย่างในธุรกิจหรืออุตสาหกรรรมที่ได้รับความสนใจและเกิดความต้องการมากขึ้น นั่นก็คือ Industrial automation ที่เป็นเทรนด์และมีการพูดถึงในวงการอุตสาหกรรมมายาวนานหลายปี ซึ่งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในครั้งนี้กลายเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดเร็วขึ้นได้อย่างน้อย 10 ปีเลยทีเดียว
เพื่อให้เราทุกคนเข้าใจถึงระบบอัตโนมัติที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจร่วมกันก่อนว่า ในปีนี้ธุรกิจและอุตสาหกรรมได้นำหุ่นยนต์และเครื่องจักรมาช่วยในการดำเนินการอย่างไร ที่ทำให้ระบบ Automation เหล่านี้กลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ของในหลายๆ บริษัทและกระบวนการผลิต
The New Normal
หุ่นยนต์มักถูกผู้คนมองด้วยความสงสัยในแง่ของความสามารถ ในขณะที่ก็มีความกลัวแอบแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน เพราะเราคงเคยได้ยินถึงผลกระทบของหุ่นยนต์ที่จะมีผลต่อความมั่นคงในอาชีพการงานของเราในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่ในปีนี้ทุกคนอาจมองหุ่นยนต์เปลี่ยนไป! เพราะการพัฒนาศักยภาพของหุ่นยนต์ทำให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจได้อย่างเหลือเชื่อ
เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และ WHO ได้ออกแนวทางในการปฏิบัติสำหรับธุรกิจและบุคคล ซึ่งรวมถึง social distancing และการจำกัดการติดต่อสื่อสารโดยตรงระหว่างบุคคลให้มากที่สุด
อาจฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับบุคคล บริษัท และกระบวนการผลิตนั้นจำเป็นต้องมีพนักงานจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งอาจต้องเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น เมื่อความปลอดภัยของพนักงานคือสิ่งสำคัญอันดับแรก ซึ่งนั่นอาจทำให้พวกเขาไม่สามารถรักษากระบวนการผลิตให้อยู่ในระดับที่เคยเป็นมาก่อนได้
Industrial automation จึงเป็นวิธีแก้ปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับพนักงานที่ป่วยสามารถแทนที่ด้วยเครื่องจักรและหุ่นยนต์ที่ทำงานในลักษณะซ้ำๆ ได้
The Potential Risk
สาเหตุที่ทำให้ Industrial automation เป็นที่พูดถึงและต้องการมากขึ้นเป็นเพราะผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรงของ COVID-19 ที่จำเป็นต้องหาทางลดการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะผู้คนสามารถติดเชื้อได้และไวรัสยังสามารถอยู่บนพื้นผิวได้ทุกที่ตั้งแต่หลายชั่วโมงไปจนถึงหลายวัน
หากผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการและยังทำงานอยู่ในสายการผลิตซึ่งมีการสัมผัสหรือหายใจบนผลิตภัณฑ์และมีความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงาน โอกาสในการแพร่เชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ถึงแม้ว่าต้องสวมถุงมือและหน้ากากตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้น ความเสี่ยงก็มีอยู่เสมอ
ซึ่งการดำเนินงานการผลิตต่อไป โดยไม่หยุดการแพร่ระบาดนั้น อาจส่งผลทำให้บริษัทต้องปิดตัวไปนานเป็นเดือนและสูญเสียรายได้มหาศาล ไม่ว่าพนักงานของคุณจะใส่หน้ากากกี่ชั้นก็ตาม แต่ความประมาทก็ยังเกิดขึ้นได้
A New Era of Jobs
อนาคตของหุ่นยนต์ที่มาแทนที่มนุษย์อาจมาเร็วกว่าที่เราคิด โดย Forrester ได้เผยแพร่รายงานโดยระบุว่าบริษัทต่างๆ คาดว่าจะลงทุนในการอัพเกรดระบบอัตโนมัติมากกว่าการจ้างพนักงานใหม่ อันเนื่องมาจากการระบาดใหญ่นี้
Forrester ยังแนะนำให้บริษัทต่างๆ เร่งแผนการทำงานอัตโนมัติในระยะยาวตามที่วางแผนไว้ เพราะนั่นคือกุญแจสำคัญในการปรับตัว เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดจากภาวะการแพร่ระบาดของ COVID-19
หมายความว่างานทั้งหมดตกอยู่ในความเสี่ยงหรือไม่ ?
คำตอบคือ ไม่ เนื่องจากตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง และงานที่เกี่ยวข้องในด้านวิศวกรรมส่วนใหญ่ยังคงมีความสำคัญ เนื่องจากต้องมีคนดูแลการอัพเกรดและขั้นตอนการบำรุงรักษาเครื่องจักรเหล่านี้ แต่สำหรับอนาคตของงานด้านการประกอบ การผลิต และงานด้านแรงงานนั้นอาจไม่สดใสเท่าที่ควร
และนี่อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับรัฐบาลและสถาบันอื่นๆ ในการลองและปรับทักษะ ทำให้ผู้คนได้งานที่มีค่าตอบแทนสูงขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้นในโลกที่มีการพัฒนาและปรับตัวอย่างรวดเร็วที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้
Industries Embracing the Change
อุตสาหกรรมการผลิต การบริการ และอาหาร ได้นำระบบ Industrial automation มาใช้เร็วกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ เนื่องจากเป็นงานที่ต้องมีการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนโดยตรง ไม่ว่าจะผ่านการสั่งซื้ออาหารจานด่วน การเตรียมอาหาร หรือการประกอบสินค้า
Self-service fast-food station ที่แมคโดนัลด์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น และร้านของชำแบบไม่ต้องใช้แคชเชียร์ก็เพิ่มจำนวนขึ้นทั่วสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งในตอนนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ประกอบธุรกิจ fast-food ต่างกำลังทดสอบหุ่นยนต์ทำอาหารและเซิร์ฟเวอร์เพื่อพัฒนาในขั้นต่อไป
เช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ เช่น Walmart ใช้หุ่นยนต์ขัดพื้นแทนภารโรง หุ่นยนต์ในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่กำลังทดสอบเพื่อวัดอุณหภูมิและแจกจ่ายเจลทำความสะอาดมือ หรือมีแม้กระทั่งหุ่นยนต์ UVD ที่ใช้แสงอัลตราไวโอเลตในการฆ่าเชื้อ ซึ่งหุ่นยนต์เฉพาะทางเหล่านี้ต่างมีความต้องการสูงมากสำหรับร้านขายของชำและโรงพยาบาล
จากตัวอย่างทั้งหมดในข้างต้น แสดงให้เห็นแล้วว่าบริษัทและผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลกพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้พนักงานมีความปลอดภัย และในขณะเดียวกันธุรกิจยังดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่เกิดความเสียหายด้วยเช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไป จะมีการพัฒนาและทดสอบเครื่องจักรที่จะกลายเป็นนวัตกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อการทำงานอย่างเหมาะสมและอยู่ในงบประมาณที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับองค์กรขนาดเล็ก
บทสรุป
ความกลัวต่อเทคโนโลยีและความก้าวหน้าส่งผลให้มีการพัฒนาไปเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย แต่ระบบการดำเนินงานแบบ Industrial automation ที่กำลังพาเราไปนั้น ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีประโยชน์อย่างมากในการนำมาใช้ในธุรกิจสำหรับสถานการณ์เช่นนี้
ท้ายที่สุดแล้ว ความปลอดภัยของผู้คนหรือพนักงานมีความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด หากหุ่นยนต์กำลังช่วยจำกัดการสัมผัสของมนุษย์ และช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัส นั่นอาจเป็นเหตุผลเพียงพอแล้วที่จะสนับสนุนทำให้เกิดการปรับตัว นำระบบ Industrial automation เข้ามาใช้งาน
แม้ว่าโลกจะมีความไม่แน่นอน ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนาและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากผู้คนมีการปรับตัวและพัฒนาทักษะอยู่เสมอ อนาคตไม่ว่าจะมีหรือไม่มี COVID 19 เราเชื่อว่าก็เป็นสิ่งที่สดใสอย่างแน่นอนค่ะ !!
พร้อมหรือยังที่โรงงานของคุณจะก้าวสู่ยุค Industry 4.0 ?
สนใจโซลูชั่นระบบอัตโนมัติ สอบถามรายละเอียดได้ที่ Chat ด้านข้าง เรายินดีให้คำปรึกษา ออกแบบโซลูชั่น และบริการติดตั้งหน้างาน การรันตีด้วยผลงานการออกแบบระบบอัตโนมัติให้กับบริษัทชั้นนำของประเทศ
ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของคุณ !
