เกี่ยวกับ Smart Factory
smart factory เป็นกุญแจสำคัญที่สามารถแก้ไขปัญหาในอดีตได้ ซึ่งความหมายก็คือ smart factory หรือ smart manufacturing เป็นระบบที่ให้ความยืดหยุ่น และยังเป็นระบบ automated self-thinking ที่สามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์บางอย่างได้ โดยไม่ต้องให้คนงานควบคุมจัดการอยู่ตลอดเวลา และยังสามารถเรียนรู้ตอบสนองได้แบบ real-time ซึ่งความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวเองได้เช่นนี้ จึงช่วยให้กระบวนการผลิตดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีการหยุดชะงักในขั้นตอนใดๆ
ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ smart factory technology ให้ก้าวสู่ความสำเร็จได้ ตัวอย่างเช่น Big Data ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความอัจฉริยะของ smart factory ได้อย่างแท้จริง ด้วยการรวบรวมข้อมูลเข้ากับระบบการดำเนินการแบบดิจิทัล ส่งผลให้การผลิตมีความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผลในอุตสาหกรรม
McKinsey คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งของ smart factory จะมีมูลค่าสูงถึง 3.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทำให้เห็นว่า ในยุคของ Industry 4.0 จะมีปัจจัยใดบ้างที่เข้ามามีอิทธิพลต่อการผลิตและการดำเนินงาน
ข้อดีของการก้าวสู่ smart factory
การที่จะก้าวสู่ smart factory ได้นั้น พิจารณาจากการผลิตที่เป็นระบบอัจฉริยะและสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง และเมื่ออุตสาหกรรมของคุณปรับปรุงระบบให้ไปถึงจุดนั้นแล้ว คุณจะได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้
การเพิ่มประสิทธิภาพของทรัพย์สิน
ประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดของ smart factory คือการปรับปรุงวิธีการใช้ทรัพยากรและทรัพย์สินทั้งหมด โดยผ่านการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการผลิตที่ชาญฉลาด เปิดเผยให้เห็นปัญหาประสิทธิภาพของสินทรัพย์ที่กระบวนการอัตโนมัติแบบเดิมไม่สามารถทำได้ สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดข้อดีและโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น downtime ที่ลดลง ปรับปรุงความสามารถของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ให้เพิ่มมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของเวลาที่ลดลง
การควบคุมคุณภาพ
คุณสมบัติที่ระบบสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวเองได้อัตโนมัติของ smart factory ทำให้เกิดฟังก์ชั่นการคาดการณ์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุง การรับประกันในคุณภาพและความสามารถในการควบคุม ซึ่งการคาดการณ์นี้ ทำให้เราเห็นแนวโน้มของข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นและสาเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การเรียกคืนผลิตภัณฑ์ เพราะ smart manufacturing มีความสามารถในระบุแนวโน้มและสาเหตุของความล้มเหลวในการผลิต ซึ่งนำไปสู่อัตราการเกิดของเสียในการผลิตที่ลดน้อยลง และเป็นการเพิ่มอัตราความสำเร็จในการผลิต รวมถึงประโยชน์อื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น
ต้นทุนที่ต่ำลง
โดยรวมแล้วการดำเนินการที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมจะส่งผลให้เกิดกระบวนการที่ประหยัดต้นทุนมากขึ้น ด้วยความสามารถในการคาดการณ์ได้มากขึ้น การตัดสินใจในการจัดหาพนักงานที่ดีขึ้น และตัวแปรในการปฏิบัติงานที่น้อยลง ทำให้มีช่องว่างน้อยลงสำหรับความล้มเหลวในกระบวนการ และทำให้ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยลง
ความปลอดภัยและความยั่งยืน
smart factory ให้ประโยชน์ที่ครอบคลุมทั้งความพึงพอใจของพนักงานและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของงานการผลิตให้เป็นแบบอัตโนมัติได้ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดของมนุษย์และลดความเหนื่อยล้าจากคนงาน การปรับปรุงกระบวนการผลิตแบบเดิ ๆ อาจส่งผลทำให้เกิดการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
บริษัทต่างมีความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่ง smart factory สามารถปรับใช้ให้ตรงกับความต้องการที่แตกต่างกันได้ ซึ่งความคล่องตัวนี้ทำให้ผู้ผลิตมีทางเลือกที่จะทำให้ระบบการผลิตของตนเองมีความฉลาดมากขึ้น ซึ่งบริษัทผู้ผลิตสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้
นี่คือประโยชน์ของการใช้ smart factory ในอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งได้แก่ ประสิทธิภาพของสินทรัพย์ การควบคุมคุณภาพ การลดต้นทุน ความปลอดภัยและความยั่งยืน และการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการ เช่นเดียวกับ Industry 4.0 ที่จะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการผลิตดั้งเดิมมาเป็นแบบดิจิทัล ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เกิดโซลูชันอันชาญฉลาด ด้วยการรวม Big Data ความสามารถในการวิเคราะห์ และดำเนินการ จนเห็นภาพรวมของการผลิตที่สมบูรณ์
เรียบเรียงและแปลข้อมูลจาก : https://www.tm-robot.com/en/blog/the-smart-factory-and-its-benefits/